coke vs pepsi

coke vs pepsi

Coca-Cola หรือ โค้ก ที่คนไทยเรียกกัน ได้ชื่อว่าน้ำอัดลม ที่เกิดก่อน Pepsi เป็นเวลาถึง 12 ปี จุดกำเนิดโค้กเกิดเมื่อปี 1886 จาก Dr. John S. Pemberton ได้ผลิตเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากใบโคคา และผลโคลา จำหน่ายที่ร้านขายยา “เจคอบ ฟาร์มาซี” ที่เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี 1888 Dr. John S. Pemberton ได้ขายสิทธิบัตรสูตร Coca-Cola ให้กับนักธุรกิจที่ชื่อ Asa Griggs Candler เพื่อนำสูตรของเขามาผลิตเป็นเครื่องดื่มอัดลมภายใต้แบรนด์ Coca-Cola หรือโค้กที่คนไทยเรียกกันออกจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน ส่วน Pepsi ถือกำเนิดในปี 1889 โดย Caleb D. Bradham เภสัชกรจากร้านขายยาในเมืองนิวเบิร์น รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา

ในเวลานั้นเทรนด์ฮิตติดร้านขายยาคือ การมีตู้โซดาจำหน่ายเครื่องดื่มให้กับลูกค้าอยู่หน้าร้าน (เหมือนกับประเทศไทยในอดีตที่ร้านขายยามีน้ำเก๊กฮวยและจับเลี้ยงขาย) และ Caleb ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับร้านยาของเขาด้วยการพัฒนาสูตรเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบจากน้ำคาร์บอเนต ผลโคลา และวานิลลา มีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร Caleb เรียกเครื่องดื่มของเขาว่าเครื่องดื่มของแบรด ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Pepsi-Cola บรรจุขวดและขายกันอย่างแพร่หลาย ในการแข่งขันระดับโลกในปัจจุบัน ทั้งสองแบรนด์ได้กระจายไปสู่ไม่เพียงแค่ Coca-Cola และ Pepsi เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มอีกมากมายภายใต้ coke vs pepsi

รายได้ทั่วโลกของบริษัท Coca-Cola ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 2019 มีมูลค่ารวม 28,198 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 854,739 ล้านบาท) สำหรับ PepsiCo ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา รายได้รวมจากทั่วโลกสูงถึง 46,521 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,410,146 ล้านบาท

แคมเปญ coke vs pepsi เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควร Take it too Serious!

coke vs pepsi แบรนด์ต่างๆ มีการทำโฆษณาเพื่อโชว์ความสามารถและข้อโดดเด่นของสินค้าเป็นเรื่องปกติ และก็เป็นเรื่องปกติอีกเช่นกันที่เราจะได้เห็นแบรนด์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ต้องแย่งชิงแข่งขันพื้นที่การตลาดเพื่อเป็นที่สุดของที่สุด ดังเช่นการแข่งขันอันดุเดือดของแบรนด์สมาร์ตโฟนยี่ห้อดัง Samsung และ Apple ที่ฟาดกันด้วยการทำแบรนด์ดิ้งและโฆษณาแบบที่เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร แต่ถ้าจะพูดถึงการแข่งขันด้านการตลาดแล้วล่ะก็ตัวเต็งที่เป็นคู่ศึกสังเวียนกันมาช้านานต้องยกให้แบรนด์น้ำดำทั้งสองยี่ห้ออย่าง Coca-Cola และ Pepsi

ขอเริ่มเล่าก่อนว่าโคคาโคล่านั้นเกิดขึ้นมาก่อนในปี 1886 และเปิดขายในร้านยาเป็นที่แรก และเน้นผลิตที่เครื่องดื่มเป็นหลัก ซึ่งหลังประสบความสำเร็จด้านน้ำดำแล้ว แบรนด์ก็คลอดน้ำอื่นๆ ตามมาทั้งแฟนต้า สไปรท์ โค้กไดเอต เป็นต้น ส่วนเป๊ปซี่เกิดขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 13 ปีให้หลัง และพยายามจะตีตลาดน้ำดำของฝั่งโคคาโคล่าให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงมีการขยับขยายผลิตภัณฑ์มากกว่าแค่น้ำดื่มไปที่การร่วมมือกับแบรนด์ขนมขบเคี้ยวอย่าง Lay เพราะคิดว่าการกินคู่กันเป็นอะไรที่อร่อยที่สุด

เป๊ปซี่เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้รายได้รวมจะสูงกว่า Coca-Cola เกือบเท่าตัว แต่ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันกลับห่างหายกันไปในเรื่องความนิยม เพราะ Pepsi เองก็มีการจำหน่ายอาหารอื่นๆ เช่นกัน . นี่คงเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่ง เป๊ปซี่ต้องการครองใจคนมากกว่าจึงมักเลือกแข่งขันด้วยการสร้างแบรนด์และโฆษณาที่ต้องบอกว่าได้ใจและก้ำกึ่ง

เป๊ปซี่เริ่มตั้งแต่การว่าจ้างราชาเพลงป๊อป Michael Jackson ถ่ายทอดความเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ของแบรนด์ตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมา หรือจะดึงเอานางแบบสุดฮอต Cindy Crawford กับโฆษณาเป๊ปซี่ในปี 1992 ที่ทำเอาทุกคนกระหายน้ำกันเลยทีเดียว เมื่อเปิดตัวด้วยเธอที่เดินนวยนาดลงมาจากซูเปอร์คาร์เพื่อหยอดเหรียญที่ตู้น้ำดื่ม ก่อนจะคว้ากระป๋องเป๊ปซี่หน้าตาใหม่เอี่ยมออกมาดื่มให้ชื่นใจ

จะรวบเอาตัวแม่ Britney Spears, Beyonce, Pink และ Enrique Iglesias มาแสดงเป็นแกลดิเอเตอร์สาวนักรบ ฟาดฟันกันในสนามด้วยพลังเสียง พร้อมดื่มเป๊ปซี่เป็นของรางวัลชั้นสูงสุดก็ย่อมได้ ไปจนถึงการยืมมือเหล่านักเตะฟุตบอล Messi, Kaka, Drogba และ Lampard มาช่วยอีกแรง กระทั่งไม่นานเท่าไหร่นี้ยังให้ Kendall Jenner มาช่วยสร้างกระแสที่กลับกลายเป็นประเด็นมาม่าชามใหญ่ เพราะถ่ายทอดเจตนารมย์ออกมาผิดแบบไม่ได้ตั้งใจ โฆษณาชิ้นนี้จึงถูกถอดออกอย่างรวดเร็วก่อนที่เรื่องจะลามไปไกลกว่านั้น สำคัญสุดกับโปรเจกต์ใหญ่ในทุกปีอย่างการเป็นผู้สนับสนุนหลักในเกม Super Bowl กับช่วง Halftime Show ที่คนทั่วโลกเฝ้ารอกันอย่างมาดมั่น ในขณะที่เป๊ปซี่เจ้าใหญ่หยิบใช้เซเลบฯ คนดังเป็นแม่เหล็กดึงดูด

เลือกแบรนด์ไหนดี “โค้ก vs เป๊ปซี่” ขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกับแบรนด์รักษ์โลก

pepsi co เส้นทางเดินของ “โค้ก” ถือกำเนิดขึ้นในปี 1886 ถูกคิดสูตรขึ้นโดยเภสัชกรชื่อ John Pemberton สำหรับในไทยเริ่มเข้ามาทำตลาดเมื่อ 2492 โดยกลุ่มบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดจำหน่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม โคคา-โคลา ในประเทศไทย จุดเปลี่ยนของโคคา – โคล่า ประเทศไทย หรือโค้ก เกิดขึ้นหลังเสริมสุขแตกหักกับเป๊ปซี่ และสัญญาของทั้งสองฝ่ายจบลงเมื่อเดือน พ.ย. 2555 ส่งผลให้การทำตลาดของเป๊ปซี่และเอสถือว่าเริ่มนับหนึ่งใหม่สิ้นปี 2555 และโค้กมีส่วนแบ่ง 50% ในตลาดน้ำดำมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่โค้กเป็นผู้นำตลาดน้ำดำแทนที่เป๊ปซี่

เกมนี้โค้กสร้างแบรนด์รักษ์โลก

โคคา – โคล่า ยุทธศาสตร์ในตอนนี้ คือ การมุ่งสร้างแบรนด์รักษ์โลก แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ เมื่อจะซื้อสินค้าแบรนด์ใดจะคำนึงว่าเป็นแบรนด์รักษ์โลกหรือไม่ มาดูกันว่าโคคา – โึคล่า ทำอย่างไรบ้าง

  • สไปรท์ ประกาศเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกพีอีทีแบบใส แทนการใช้ขวดพลาสติกสีเขียว เพื่อให้สามารถนำขวดพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ต่อไป
  • โคคา-โคล่า ประกาศวิสัยทัศน์ “World Without Waste” เพื่อกำจัดปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ให้หมดไป กับเป้าหมายเก็บคืนขวดและกระป๋องเครื่องดื่มทุกชิ้นที่จำหน่าย เพื่อนำกลับมารีไซเคิลในปริมาณเทียบเท่ากับปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลอดให้ได้ 100% ก่อนปี 2573
  •  น้ำทิพย์ ขวดนิ่ม เปิดตัวเมื่อปี 2555  เป็นแบรนด์ที่ผ่านนวัตกรรมการผลิต “อีโค-ครัช” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถลดการใช้วัตถุดิบพลาสติกลงถึง 35%

ความพยายามของโค้กพอร์ตฯสุขภาพ

pepsi coke challenge พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากกระแสสุขภาพมาแรง ยักษ์ใหญ่น้ำอัดลมต่างรู้ดี โคคา – โคล่า เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพด้วยเช่นเดียวกัน

  • Minute Maid ที่มีจุดขายด้วยการผสมเนื้อส้มแท้ๆ ทำให้แบรนด์แตกต่างจากน้ำผลไม้คู่แข่ง โดยเปิดตัว 2552 และยังเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมาจนถึงปัจจุบันนี้
  • อะไลฟ์ เครื่องดื่มเป็นแคชชวล สปอร์ตดริงค์ ที่อยู่ตรงกลางของเครื่องดื่มสปอร์ตดริงค์ เจาะไลฟ์สไตล์เป็นคนรุ่นใหม่ที่มี Activity แต่สุดท้ายก็ต้องถอนจากตลาดไปในที่สุด
  • ฮาบุ เครื่องดื่มสมุนไพรที่พัฒนาขึ้นในไทย เปิดตัว 2556 เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีรสชาติเปรี้ยวของกระเจี๊ยบเป็นตัวนำ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับความเร่งรีบ และความเหนื่อยล้า และก็ค่อยๆ หายไปจากตลาด เนื่องจากการแข่งขันตลาดน้ำสมุนไพรมีความรุนแรงจากการทำโปรโมชั่น
  • Fuze Tea ชามะนาว 1 ใน 20 แบรนด์ยอดขายสูงสุดบุกตลาดไทย 2560 เพราะเซ็กเมนต์ชามะนาว จัดว่าเป็นตลาดที่ใหญ่รองลงมาจากตลาดชาเขียว และยังชนกับเจ้าตลาดชาดำลิปตัน ไอซ์ทีของค่ายเป๊ปซี่
  • Zico น้ำมะพร้าวธรรมชาติ 100% เปิดตัว 2560 เครื่องดื่มคุณภาพระดับพรีเมียม ไม่ผสมน้ำมะพร้าวเข้มข้น  เจาะกลุ่มผู้รักสุขภาพ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง